ไข้ซิกาและไข้เลือดออกกำลังเพิ่มขึ้นในประเทศไทย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่มในไทย 20 ราย ยอดผู้ติดเชื้อทะลุหลักร้อยแล้ว ทางการระบุว่าไม่ต้องกังวล หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ตั้งข้อสงสัยว่า
สำนักระบาดวิทยาของกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของไวรัส Zika ได้รับการประเมินต่ำเกินไป ปัญหาคือโรค (ไข้ซิกา) มักจะไม่รุนแรง คนส่วนใหญ่ไม่มีข้อตำหนิเลย ดังนั้นการแจ้งเตือนจึงดับลง อาการของโรคไข้ซิกามักปรากฏภายใน 3 ถึง 12 วันหลังจากถูกยุงที่มีเชื้อกัด คนส่วนใหญ่ฟื้นตัวภายในหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มีปัญหาร้ายแรง อาการที่เป็นไปได้ของไข้ซิกาคือ:
- เฉียบพลัน แต่มักไม่มีไข้สูง
- การอักเสบที่ไม่ใช่หนองของตา
- ปวดกล้ามเนื้อและข้อ (โดยเฉพาะมือและเท้า บางครั้งอาจมีอาการบวมร่วมด้วย)
- ผื่นที่ผิวหนัง (มักเริ่มที่ใบหน้าและกระจายไปทั่วร่างกาย)
- และบ่อยครั้งขึ้น: ปวดหัว, เบื่ออาหาร, อาเจียน, ท้องร่วงและปวดท้อง
จากข้อมูลของสุรศักดิ์ กล้าหาญ จากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กระทรวงมองข้ามภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นและการแพร่กระจายของไวรัส เป็นการย้อนความทรงจำถึงวิธีการที่รัฐบาลและหน่วยงานสาธารณสุขจัดการกับการระบาดของโรคอื่นๆ เช่น ไข้หวัดนก ในอดีต การรับรู้และแจ้งให้ประชากรทราบช้าเกินไปและสั้นเกินไป
เพียงเพราะการติดเชื้อ Zika ไม่รุนแรงและมีอายุสั้นไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เราควรกังวลเมื่อพูดถึงสตรีมีครรภ์หรือเมื่อมีความต้องการมีบุตร
ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างความผิดปกติในเด็กในครรภ์กับการติดเชื้อไวรัสซิกาในระหว่างตั้งครรภ์ เหนือสิ่งอื่นใด มีการอธิบายความผิดปกติของสมอง (microcephaly) ในเด็กในครรภ์
ไข้เลือดออก
เครือข่ายเฝ้าระวังโรคลุ่มน้ำโขงเสนอให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านใช้การระบาดของซิกาในการกำจัดไข้เลือดออกด้วยเพราะโรคนี้แพร่โดยยุงลายตัวเดียวกัน ในช่วง 18.000 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว XNUMX ราย และเสียชีวิตแล้ว XNUMX ราย
พวกเราหลายคนพบว่าการถูกยุงกัดเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่ถ้าคุณดูจำนวนการติดเชื้อจากไข้เลือดออกและซิกา เราควรตระหนักว่ายุงกัดไม่ได้เป็นเพียงความรำคาญเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย ศรุศักดิ์กล่าว
ที่มา: บางกอกโพสต์