คดี รธน. อากาศหนาว ประนีประนอม
คอลัมนิสต์ วีระ ประทีปชัยกุล ผู้เสนอการประนีประนอมที่ดีในบางกอกโพสต์ ได้รับหน้าที่แล้ว (ดู 9 กรกฎาคม: ศาลรัฐธรรมนูญได้รับการประนีประนอมที่ดีจากคอลัมนิสต์).
แต่เมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ก้าวไปอีกขั้นในคดีรัฐธรรมนูญที่ขัดแย้งกัน เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2007 ได้รับการอนุมัติจากประชาชนโดยการลงประชามติ จึงต้องจัดให้มีการลงประชามติก่อนในประเด็นที่ว่า จะสามารถจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่
ไม่ว่าในกรณีใด แถลงการณ์ก็ทำให้อากาศแจ่มใส ทั้งผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามต่างอ้างชัยชนะ พรรครัฐบาลเพื่อ ภาษาไทย จะพิจารณาร่วมกับพันธมิตรแนวร่วมว่าการดำเนินคดีรัฐสภาสมัยที่ 1 ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับเมื่อวันที่ XNUMX มิถุนายน จะสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่ รัฐบาลวิป อุดมเดช รัตนเสถียร: “หากมีการลงประชามติ การพิจารณาวาระที่สามอาจถูกระงับไว้ในระหว่างการลงประชามติ”
นพดล ปัทมา ที่ปรึกษากฎหมายของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ พบว่าคำตัดสินนี้น่าผิดหวังสำหรับทั้งสองค่าย แต่เขาพูดว่า: 'ชอบหรือไม่ก็ตาม มันมีผลผูกพันตามกฎหมาย'
สมศักดิ์ เกียรติสุรานนท์ ประธานหอการค้า 'งง' เขาเชื่อว่าคำตัดสินดังกล่าวยังมีพื้นที่ให้ตีความได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้จัดตั้งทีมกฎหมายเพื่อศึกษาคำพิพากษา
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำถามสี่ข้อ
- โดยยืนยันว่าตนมีอำนาจพิจารณาคดีนี้ ซึ่งอัยการสูงสุดไม่ได้ยื่นคำร้อง
- โดยปฏิเสธคำกล่าวอ้างของฝ่ายตรงข้ามที่ว่ากระบวนการพิจารณาในปัจจุบันเป็นความพยายามที่จะยุติระบอบกษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ
- งดแถลงความเป็นไปได้ที่จะยุบพรรคเพื่อ ภาษาไทย.
- โดยเจาะลึกถึงคำถามที่ว่ามาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญเสนอความเป็นไปได้ในการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมดหรือไม่ [คำตอบค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นฉันจะทิ้งคำตอบไว้เพื่อความสะดวก]
.
เพื่อ ภาษาไทย ต้องการจัดตั้งสภาราษฎรโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งจะมีหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2007 (ก่อตั้งภายใต้รัฐบาลที่จัดตั้งโดยรัฐบาลทหาร พ.ศ. 2006) รัฐสภาซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างปิดทำการ จะมีการประชุมอีกครั้งในเดือนสิงหาคม จนถึงขณะนี้ได้มีการหารือและอนุมัติการแก้ไขแล้วในสองงวด
โชคดีที่นี่เป็นประชาธิปไตยและไม่มีอคติจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
หากมีการลงประชามติประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
และนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเหรอ?