การจัดเก็บภาษีผลประโยชน์ประกันสังคม - ขั้นตอนต่อไป
บล็อกของประเทศไทยมักให้ความสนใจกับข้อเท็จจริงที่ว่าทั้งเนเธอร์แลนด์และไทยได้รับอนุญาตให้เก็บภาษีรายได้จากสวัสดิการประกันสังคมที่ได้รับจากเนเธอร์แลนด์ เช่น ผลประโยชน์ AOW, WAO และ WIA ด้วยข้อยกเว้นบางประการ การรับรู้นี้มาถึงผู้อ่านทั่วไปของ Thailandblog แล้ว
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ผมได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้อีกครั้ง โดยลงบทความในบล็อกไทยแลนด์ สิ่งใหม่ในสิ่งนี้คือภาระหน้าที่ในส่วนของหน่วยงานภาษีของไทยในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณโดยหน่วยงานด้านภาษีจากผลประโยชน์ประกันสังคม การลดนี้เป็นไปตามมาตรา 23(6) ของสนธิสัญญาภาษีซ้อนที่ทำขึ้นระหว่างประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศไทย และอาจถึงขั้นกำหนดให้ประเทศไทยงดเว้นการเก็บผลประโยชน์ประกันสังคมโดยสิ้นเชิง
สำหรับบทความวันที่ 17 มีนาคม โปรดดูที่: www.thailandblog.nl/expats-en-pensionado/levy-van-belasting-over-social-security benefit/
ภายหลังผู้อ่านของ Thailandblog บางท่านได้ขอให้ผมคำนวณการลดหย่อนนี้เพื่อหารือกับสำนักงานสรรพากรเกี่ยวกับการใช้การลดหย่อนดังกล่าว สิ่งที่น่ารำคาญเกี่ยวกับเรื่องนี้คือแบบสำแดงไทย ภ.ง.ด. 90 หรือ (ซึ่งจะใช้บ่อยกว่านี้) แบบ ภ.ง.ด. 91 ไม่มีช่องว่างสำหรับการลดหย่อนนี้ ฉันได้ตอบคำถามของพวกเขาแล้ว
การคำนวณนี้อาจมีความสำคัญสำหรับชาวดัตช์คนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่มีสวัสดิการประกันสังคม เช่น สวัสดิการ AOW ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันยินดีที่จะนำการคำนวณนี้ไปใช้ใน Thailandblog เพื่อเป็นแบบจำลองการคำนวณ
อ่าน PDF ของ Lammert ที่นี่: www.thailandblog.nl/wp-content/uploads/Heffing-socsecurity benefit continuation.pdf
แลมเมิร์ต ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆ
ในหน้า 2 จำนวน 653.677 บาทปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน ฉันไม่สามารถวางที่ แต่ไม่รบกวนวิธีการคำนวณ
เอริก
จำนวนเงินคือ AOW ขั้นต้น ฯลฯ ที่แปลงเป็นบาท อาจเป็นประโยชน์ในการระบุทั้งเงินบำนาญรวมและเงินบำนาญของรัฐสุทธิ ฯลฯ ในตอนเริ่มต้นของการคำนวณ เพื่อไม่ให้จำนวนเงินนี้ผิดเพี้ยนไป
ยังดูเหมือนเป็นงานใหญ่ที่จะอธิบายเรื่องนี้กับหน่วยงานด้านภาษีของไทย
แลมเมิร์ทงานสวยครับ
โจ ขอบคุณ เพิ่งวางสายกับแลมเมิร์ตที่พูดแบบเดียวกัน
สวัสดี แลมเมิร์ต สโลแกน “เราไม่สามารถทำเพื่อให้มันสวยงามได้อีก” ซึ่งแปลโดย Google ว่า “เราไม่สามารถบันทึกได้ กลับมาสวยอีกครั้งได้” ยังไม่เข้าใจมันเลย
คำอธิบายภาพ
เราไม ซามาต ทามไฮ มัน โซวัจ กาอัม ไดอิ๊ก
เราไม่สามารถทำให้เกิดอดีตที่สวยงามและสวยงามได้อีก
สิ่งที่ฉันจะแปลว่า: เราไม่สามารถทำให้มันสวยงามได้อีก / อีกครั้ง
แค่พูดว่า 'เราไม่สามารถทำให้ดีกว่านี้ได้'?
ถูกต้องเลยโจ คุณสามารถสมทบเงินบำนาญสุทธิของรัฐและอื่น ๆ ได้สูงสุดในประเทศไทย นั่นคือเหตุผลที่ฉันพูดถึง "สุทธิ" ด้านหลังการชำระเงินที่เกี่ยวข้องในแผ่นงาน 1 ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นหลังจากเงินบำนาญของบริษัทและเงินงวด ท้ายที่สุด อาจเป็นได้ทั้งยอดรวมและสุทธิ ขึ้นอยู่กับการยกเว้นที่ได้รับในเนเธอร์แลนด์
เงินบำนาญของรัฐจำนวนสุทธินี้ ฯลฯ จะรวมอยู่ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (PIT) ที่ครบกำหนด
อย่างไรก็ตาม สำหรับการคำนวณการลดหย่อนตามข้อ 23 วรรค 6 ของสนธิสัญญา หน่วยงานด้านภาษีของไทยต้องเริ่มต้นจากภาษีเงินเดือน/ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย/จัดเก็บในประเทศเนเธอร์แลนด์ และจากนั้นเป็นจำนวนรวมของผลประโยชน์ AOW นั่นคือเหตุผลที่ฉันระบุ "จากยอดรวม" สำหรับจำนวนผลประโยชน์ AOW ฯลฯ ในหน้า 2
ฉันควรทราบไว้ ณ ที่นี้ว่าผู้ชายที่ฉลาดซึ่งฉันเคี้ยวไฟล์ Excel อย่างถี่ถ้วนด้วยคือ WH de Visser (นักเขียนประจำในบล็อกประเทศไทย) ดึงความสนใจของฉันไปที่ข้อเท็จจริงที่ว่าผลประโยชน์ AOW จำนวนรวมควรใช้เป็น ฯลฯ สำหรับการคำนวณภาษีเงินเดือน/ภาษีเงินได้ (เครดิตเมื่อถึงกำหนดเครดิต)
ดูเหมือนจะเป็นการดีที่จะรวมจำนวนเงินรวมของผลประโยชน์ AOW ฯลฯ ไว้ใต้ข้อมูลสำคัญ ณ จุดนี้ฉันจะปรับไฟล์
คุณสังเกตเห็นสิ่งนี้แล้ว แต่สำหรับผู้อ่านที่ไม่สงสัย จำนวนเงินแม้ว่าฉันจะระบุว่าเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินรวม แต่ก็หลุดจากสีน้ำเงิน
เพื่อให้เข้าใจสิ่งนี้ ฉันต้องลบการหักเงิน/ลดหย่อนบางส่วนหรือแทบไม่เกิดขึ้น เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับการเพิ่มนี้ ฉันชอบที่จะปล่อยให้โครงสร้างของ PIT เหมือนเดิมในดิสก์ต่างๆ
คงจะเป็นงานค่อนข้างมากที่จะให้เจ้าหน้าที่ภาษีของไทยนำข้อกำหนดการลดหย่อนไปใช้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากแบบสำแดง ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 ไม่มีช่องว่างเฉพาะสำหรับเรื่องนี้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันได้รวมข้อความภาษาอังกฤษของมาตรา 23(6) ของสนธิสัญญาไว้ด้วย
ฉันแก้ปัญหานี้ได้โดยโอนเงินบำนาญของฉันเป็นรายเดือนและเงินบำนาญของรัฐเพียงครั้งเดียวในเดือนมกราคมปีถัดไป จากนั้นเป็นการออมและไม่ต้องเสียภาษี
ฉันยังโอนเงินก้อนของเงินบำนาญที่เก็บไว้และ AOW ปีละสองครั้ง ฉันจ่ายภาษีในประเทศเนเธอร์แลนด์จากรายได้ทั้งสองแหล่ง ฉันเข้าใจว่าฉันไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีในประเทศไทยและไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรไทย
ตกลงไหม
เป็นที่น่าสงสัยอย่างมากว่าคุณปฏิบัติถูกต้องหรือไม่โดยการไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทารุด ไม่เกี่ยวกับความถี่ที่คุณโอนเงินมาที่ประเทศไทย แต่การโอนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับรายได้ที่คุณมีจริงในปีนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ คุณไม่สามารถพูดถึงรายได้อีกต่อไป แต่เป็นการออม
ตัวอย่างเช่น หากคุณโอนเงินบำนาญ (ของบริษัท) และผลประโยชน์ AOW ที่บันทึกไว้ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนมายังประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม รายได้นั้นจะต้องเสียภาษี หากคุณโอนจำนวนเงินที่บันทึกไว้สำหรับเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคมในเดือนมกราคม นั่นไม่ใช่รายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่เป็นเงินออม
คุณเขียนว่าคุณจ่ายภาษีในเนเธอร์แลนด์สำหรับผลประโยชน์ AOW และเงินบำนาญของคุณ เท่าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งหลัง ฉันหวังว่าเพื่อประโยชน์ของคุณเกี่ยวกับเงินบำนาญของรัฐบาล เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะถูกกีดกันอย่างจริงจัง เงินบำนาญของบริษัทไม่ต้องเสียภาษีในเนเธอร์แลนด์ แต่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น คุณสามารถขอคืนภาษีค่าจ้างที่หักจากเงินบำนาญของบริษัทได้โดยการยื่นแบบแสดงรายการภาษี
คุณมีหน้าที่ต้องประกาศทั้งผลประโยชน์ AOW และเงินบำนาญของบริษัทในประเทศไทย ตราบเท่าที่ผลประโยชน์เหล่านี้ได้มอบให้กับประเทศไทยในปีที่พวกเขาได้รับ
นอกจาก AOW แล้ว ฉันมีเงินบำนาญของรัฐบาล ABP ฉันจ่ายภาษีทั้งสองอย่างในเนเธอร์แลนด์
ฉันยังสามารถโอนเงินก้อนในเดือนมกราคมจากเงินออมของฉันจากปีที่แล้วสำหรับค่าใช้จ่ายในปีหน้า “หากคุณโอนจำนวนเงินที่บันทึกไว้สำหรับเดือนมกราคม-ธันวาคมในเดือนมกราคมปีหลังจากนั้น จะไม่ใช่รายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่เป็นเงินออม” ฉันยังต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีในประเทศไทยในส่วนของ AOW ที่มากกว่าสิทธิลดหย่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีซ้ำซ้อนหรือไม่?
ฉันแต่งงานกับคนไทยมา 30 ปี
เราอยู่เมืองไทยมาสองปีแล้ว
เรามีบ้านในชื่อภรรยาของฉัน เธอไม่มีรายได้
ฉันต้องรายงานต่อหน่วยงานด้านภาษีของไทยหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันต้องรายงานตัวกับภรรยาของฉันหรือไม่? อยู่ส่วนไหนของอุดรธานีครับ ภาษาไทยเรียกว่าอะไร (ผมค้นหา 3 ชั่วโมงแล้วสำหรับสำนักงานประกันสังคม ไม่มีใครรู้จักชื่อนั้น และผมก็ไม่รู้ชื่อภาษาไทย)
ฉันมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับข้อความเกี่ยวกับค่าปรับที่สามารถเรียกเก็บได้ (https://www.thailandblog.nl/expats-en-pensionado/heffing-van-belasting-over-sociale-zekerheidsuitkeringen/ )” ผู้เสียภาษีที่ถูกประเมินเพิ่มเติมเนื่องจากยื่นแบบแสดงรายการไม่ถูกต้องหรือไม่ยื่นแบบแสดงรายการจะถูกปรับ อัตราโทษ 100% กรณีสำแดงไม่ถูกต้อง และ 200% กรณีไม่สำแดง…. หากสำนักงานสรรพากรของคุณเห็นว่าจุดประสงค์ของคุณคือการหลีกเลี่ยงภาษีหรือฉ้อโกง ระบบการปกครองที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจะมีผลบังคับใช้ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 37 ของประมวลรัษฎากร ซึ่งกรณีดังกล่าวนอกจากจะมีโทษปรับแล้ว จำคุกไม่เกิน 6 เดือนกรณีหลีกเลี่ยง หรือ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับไม่เกิน 200.000 บาทกรณีฉ้อโกง”
ดังที่ Jaques กล่าวไว้ด้านล่าง: “หากเนเธอร์แลนด์หักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว ก็ไม่ควรให้เครดิตแก่ประเทศไทย และการยื่นแบบแสดงรายการภาษีก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นการสนทนาทั้งหมดนี้ไม่ควรมีจุดหมาย”
อย่างไรก็ตาม แลมเมิร์ต: ฉันซาบซึ้งในความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญของคุณในด้านนี้ คุณไม่สามารถทำให้ดีขึ้นและง่ายขึ้นได้เช่นกัน
ในโพสต์เมื่อวานนี้เกี่ยวกับวิธีขอหมายเลขภาษีไทย (TIN) จีโน่บางคนแนะนำให้ผู้เชี่ยวชาญเพียงคนเดียวตอบคำถามประเภทนี้ เขานึกถึงแลมเมิร์ต เดอ ฮาน (ฉันชอบด้วย) คำถามเกี่ยวกับเรื่องภาษีต้องการคำตอบที่ซับซ้อนเพราะเกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาของเนเธอร์แลนด์และไทย การอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหาของสนธิสัญญาเหล่านั้น บางครั้งมีรายละเอียดมาก มีข้อโต้แย้งร่วมกันมากมาย ทำให้การค้นหาสิ่งที่ต้องทำในกรณีที่เป็นรูปธรรมไม่ง่ายนัก ตารุดแค่ต้องการความชัดเจนเพราะเขามึนกับคำตอบและข้อมูลทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงสรุปสถานการณ์ความเป็นอยู่ของเขาและถามอย่างชัดเจนว่า: ฉันควรรายงานต่อหน่วยงานด้านภาษีของไทยหรือไม่? คงจะดีสำหรับ Thailandblog ถ้ามีคนคนหนึ่งวางแผนทีละขั้นตอนเหมือนที่ RobV ทำเกี่ยวกับเชงเก้นและ RonnyLatYa เกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองของไทย
ฉันอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ ฉันไม่รู้อะไรดีไปกว่าการบอกมาหลายปีแล้วว่าไม่จำเป็นต้องยื่นรายงานเพราะไม่มีอะไรจะได้จากฉัน เรามีสนธิสัญญาที่ดีและไม่มีใคร สามารถทำบางสิ่งบางอย่างให้เราได้ เช่นเดียวกับคุณ ฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับความปั่นป่วนในปัจจุบันและข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ในบล็อกนี้ ฉันทำงานกับทนายความชาวไทยมาหลายปีแล้วและได้นำเสนอทุกอย่างให้เขาแล้ว คำอธิบายมาตรา 18, 19, 23 เป็นต้น เงินบำนาญ AOW และตามที่เธอบอก ในกรณีของฉัน ไม่จำเป็นต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี ไม่มีอะไรให้เลือกและฉันสามารถพิสูจน์ทุกอย่างที่เข้ามาในประเทศไทยและภาษีหัก ณ ที่จ่ายในเนเธอร์แลนด์
ตัวบ่งชี้การฉ้อโกงไม่มีบทบาทในกรณีของฉัน หากคุณทราบล่วงหน้าหรือทราบว่าคุณค้างชำระภาษีในประเทศไทยแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็มีเหตุผลที่จะต้องกลัว มีตัวอย่างของชาวดัตช์ที่แสดงให้เห็นในเรื่องนี้ ข้อผูกมัดสำหรับชาวต่างชาติทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย 180 วันต่อปีในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีนั้นดูจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง ในทางกลับกัน ฉันเข้าใจว่าคุณต้องการความแน่นอนและยังคงยื่นแบบแสดงรายการภาษีอยู่หรือไม่ ทุกคนต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง
Taruud ฉันดีใจที่คุณเพิ่มเวลาเกษียณ ฉันได้เขียนไปแล้วในการตอบกลับครั้งแรกว่า ฉันหวังว่ามันจะเป็นเงินบำนาญของรัฐบาลสำหรับคุณ คุณยืนยันตอนนี้
สำหรับคุณไม่มีสิ่งสกปรกในอากาศ คุณสามารถโอนเงินมาที่ประเทศไทยได้ทุกสัปดาห์ (แม้ว่าฉันจะไม่แนะนำสิ่งนี้เพราะค่าใช้จ่าย)
เงินบำนาญของรัฐบาลของคุณจะถูกเก็บภาษีในประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น ทั้งเนเธอร์แลนด์และไทยได้รับอนุญาตให้เรียกเก็บภาษีจากผลประโยชน์ AOW ของคุณ แต่เป็นไปได้มากว่าหลังจากการหักลดหย่อนแล้วจะไม่มีจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีสำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คุณอาจได้รับค่าลดหย่อน 190.000 บาท 65 เท่าสำหรับอายุ 60.000 ปีขึ้นไป และอาจมีค่าลดหย่อน 2 สองเท่าสำหรับ 0 คน (สำหรับตัวคุณเองและภรรยาของคุณ) หากยังมีจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นไปได้กับผลประโยชน์ของ AOW และเงินช่วยเหลือของพันธมิตร AOW อันดับแรก คุณจะต้องจัดการกับผลรวมปลอดภาษี 150.000% สำหรับ 23 บาทแรก และจากนั้นกับ บทบัญญัติหักกลบลบหนี้ภายใต้มาตรา 6(XNUMX) ของสนธิสัญญา
เนื่องจากภาษีค่าจ้างของเนเธอร์แลนด์ในผลประโยชน์ AOW ของคุณจะสูงกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เป็นไปได้มาก จึงไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับประเทศไทยในการเรียกเก็บภาษีจากผลประโยชน์ AOW ของคุณ
การลงทะเบียนกับสำนักงานสรรพากรของคุณไม่สมเหตุสมผล คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าปรับและบทลงโทษที่ฉันเคยโพสต์ไว้ในบล็อกประเทศไทยและที่คุณอ้างถึงในคำตอบของคุณ
@แลมเมิร์ต
ให้คำแนะนำในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีแล้วเสียเงินเป็นศูนย์ไม่ดีกว่าหรือเพราะว่าไม่มีใครทำอะไรคุณได้อีกต่อไปแล้ว? มันอาจจะถูกต้องตามกฎหมายแต่เป็นความพยายามเพียงเล็กน้อยและจะป้องกันไม่ให้คุณบ่นเพื่อให้คุณได้รับสิ่งที่ถูกต้องเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ากฎของวีซ่าจะทำอย่างไร และอย่างน้อยเอกสารภาษีก็เป็นระเบียบ
จอห์นนี่ บีจี,
สิ่งที่คุณอธิบายว่าเป็นความพยายามเพียงเล็กน้อยกลายเป็นถนนที่เกือบจะเป็นทางตันในหลายกรณี มีไม่บ่อยนักที่เจ้าหน้าที่ภาษีของไทยจะปฏิเสธการยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าชาวไทยของฉันซึ่งมีเงินบำนาญที่ "ค่อนข้างดี" ในฐานะอดีตผู้อำนวยการของบริษัทข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ ใช้เวลาสองปี (จากนั้นจึงว่าจ้างทนายความชาวไทยด้วย) เพื่อยื่นคำร้อง "อาจ" ทำ!
ด้วยความช่วยเหลือของตัวอย่างการคำนวณที่ฉันโพสต์ คุณสามารถระบุได้อย่างรวดเร็วว่ามีภาระผูกพันในการชำระเงินที่เป็นไปได้หรือไม่และมากน้อยเพียงใดหลังจากยื่นแบบแสดงรายการภาษี ยังคำนึงถึงข้อกำหนดการทำให้เท่าเทียมกันตามข้อ 23 วรรค 6 ของสนธิสัญญาในเวลาเพื่อประโยชน์ของ AOW
ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีคือ: คุณจะอธิบายให้เจ้าหน้าที่ภาษีของไทยทราบเกี่ยวกับการดำเนินการของข้อกำหนดการปรับภาษีนี้อย่างไร แบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 ไม่มีช่องว่างสำหรับแจ้งการลดหย่อนนี้
ตอนนี้ฉันได้ให้คำแนะนำบางอย่าง เช่น การคำนวณการลดลง และข้อความภาษาอังกฤษของมาตรา 23(6) แต่ทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขาเช่นกัน
คุณเขียนเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการจู้จี้ในภายหลังเพื่อให้คุณถูกต้อง
ฉันคาดการณ์การจู้จี้ไว้ล่วงหน้ามากมาย เช่น เมื่อคุณยื่นรายงาน หลังเกือบจะแน่นอนในขณะที่ยังคงเห็นอดีต
เจ้าหน้าที่ภาษีของไทยมักไม่กระตือรือร้นกับใบหน้าซีดๆ ที่ต้องการยื่นแบบแสดงรายการภาษีหากจำเป็น :
ฉันรู้จักชาวดัตช์หลายคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยในฐานะอดีตข้าราชการพลเรือนและเคยทำงานในสำนักงานสรรพากรเช่นเดียวกับฉัน พวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือเพราะไม่จำเป็นและไม่มีอะไรบันทึกไว้
ฉันได้รับคำแนะนำจากทนายความชาวไทยว่าอย่ารายงานอาชญากรรมและควรรับฟังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอย่างรอบคอบเนื่องจากเห็นว่าเป็นที่น่าพอใจเกี่ยวกับปัญหารายได้ พวกเขาทราบรายได้ผ่านงบกำไรขาดทุนหรือผ่านข้อมูลบัญชีธนาคารที่ให้ไว้ในระหว่างการต่ออายุประจำปี มีการปรึกษาหารือและติดต่อระหว่างสำนักงานสรรพากรกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในเรื่องนี้จริงๆ ตราบใดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและสรรพากร พวกเราที่ได้รับผลกระทบก็หายใจสบายในวัยชราของเรา
แลมเบิร์ตที่รัก ขอบคุณสำหรับข้อมูลนี้ ฉันเกษียณแล้วและตอนนี้อายุ 73 ปี ค่อนข้างอุ่นใจ และภรรยาของฉันก็พูดทันทีว่า: "ฉันก็บอกคุณแล้วเหมือนกัน!"
อย่างไรก็ตาม ผมสนับสนุนแนวคิดในการสรุปรวบรัดสำหรับสถานการณ์ที่พบบ่อยที่สุด พร้อมคำแนะนำว่าควรรายงานเพื่อการประกาศในประเทศไทยหรือไม่ ทั้งสองประเทศ เฉพาะเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น และเสี่ยงต่อการติดคุก
ฉันยังคงพบว่ามันไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามีการร่างสนธิสัญญาและลงนามโดยทั้งสองประเทศที่กำหนดว่าจะไม่เก็บภาษีรายได้สองครั้ง หากเนเธอร์แลนด์หักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว ก็ไม่ควรให้เครดิตแก่ประเทศไทย และการสำแดงเรื่องนี้ก็ไร้ความหมาย ดังนั้นการสนทนาทั้งหมดนี้ไม่ควรมีจุดหมาย แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ถูกจัดอย่างถูกต้อง และตอนนี้เรากำลังเผชิญกับความยุ่งยากนี้ เท่าที่ฉันกังวล การบ้านสามารถทำซ้ำได้อีกครั้งโดยผู้รับผิดชอบและตอนนี้ดีแล้ว เพื่อไม่ให้ทุกคนมีความชัดเจน
ผมคิดว่ามีการจัดการที่ดี กล่าวคือ ถ้าคุณต้องจ่ายภาษีในประเทศไทยด้วยเพราะคุณอาศัยอยู่ที่นั่น คุณอาศัยอยู่ที่นั่น คุณสามารถขอภาษีที่จ่ายในเนเธอร์แลนด์คืนได้ ใช่ คุณสามารถยื่นคำขอหลายปีได้ด้วยซ้ำ ของหน่วยงานภาษี NL สวยใช่มั้ย
ซึ่งใช้ไม่ได้กับอดีตข้าราชการที่ยังคงจ่ายเต็มราคา สำหรับฉันยังมีส่วนต่างประมาณ 5000 ยูโรต่อปี นอกจากนี้ เราต้องจ่ายภาษีในประเทศไทยสำหรับสินค้าทั้งหมดที่คุณซื้อและยังมีสิ่งที่ต้องคิดอีกมาก .
มีบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ
ฉันมีเงินบำนาญของรัฐที่ฉันจ่ายภาษีในเนเธอร์แลนด์
ฉันมีเงินบำนาญสองก้อนที่ฉันได้รับการยกเว้นจากภาษีค่าจ้างและเงินสมทบประกันสังคม รวมถึงของ ABP
เหตุผล: ฉัน (ยัง) ทำงานในประเทศไทยเป็นเวลา 14 ปีและเสียภาษีรายได้จากเงินเดือนของฉัน และแน่นอนว่ายังมีหมายเลขภาษีไทยทุกปี
เงินบำนาญของฉัน (ในฐานะอดีตข้าราชการพลเรือน) จะถูกเก็บภาษีในเนเธอร์แลนด์เสมอ ฉันไม่ต้องจ่ายภาษีในประเทศไทย ฉันคิดว่าครั้งเดียวพอหรือมากเกินไปจริงๆ เพราะฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงข้อโต้แย้งที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
AOW ยังเก็บภาษีในประเทศเนเธอร์แลนด์ด้วย ก่อนหน้านี้ คุณสามารถเลือกระหว่างการลดหย่อนกับค่าใดค่าหนึ่งจากทั้งสองค่าได้ ฉันคิดว่าหลังจากปี 2015 สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นในทั้งสองกรณีการรวบรวมในประเทศเนเธอร์แลนด์และด้วยสนธิสัญญาอันยิ่งใหญ่บนตักของเราและตามมาตรา 23 วรรค 6 จึงไม่ถือเป็นเกียรติแก่หน่วยงานของไทยในเรื่องเงินบำนาญของรัฐของฉันในกรณีนี้เช่นกัน ภาษีที่ฉันจ่ายอีกครั้งสามารถพบได้ในการซื้อสินค้าและของชำและการรับประทานอาหารนอกบ้านและสวนสนุกในประเทศไทย ฯลฯ เนื่องจากการชำระภาษีก็เกิดขึ้นที่นั่นด้วย
คริส ประเทศไทยได้รับอนุญาตให้เก็บภาษีจากเงินบำนาญของรัฐ ต่อจากนั้น จะต้องใช้การทำให้เท่าเทียมกันตามมาตรา 23(6) ของสนธิสัญญาภาษีซ้อนที่ทำขึ้นระหว่างประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศไทย การทำให้เท่าเทียมกัน/ลดจำนวนนี้ให้ต่ำกว่าจำนวนต่อไปนี้:
ก. ภาษีที่รวมอยู่ในภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับสิทธิประโยชน์ AOW ของคุณ
ข. ภาษีค่าจ้าง/ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย/ครบกำหนดชำระผลประโยชน์ AOW ของคุณ
ตรงกันข้ามกับที่ฉันอ่านในหลายๆ คำตอบ ที่สมดุล คุณจ่ายภาษีเงินได้จากเงินบำนาญของรัฐในประเทศเดียว
ฉันอ่านว่าคุณได้รับการยกเว้นภาษีค่าจ้างสำหรับเงินบำนาญ ABP ของคุณด้วย นี่แสดงว่าคุณได้รับเงินบำนาญส่วนตัวจาก ABP บ่อยครั้งที่ฉันอ่านในบล็อกของประเทศไทย (แม้แต่จากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี) ว่าเงินบำนาญ ABP ต้องเสียภาษีในเนเธอร์แลนด์ แต่มีสถาบันเอกชนจำนวนนับไม่ถ้วนที่มี ABP เป็นผู้ดูแลเงินบำนาญ นี่คือการตั้งค่าแบบเก่าที่เรียกว่า B-3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณควรนึกถึงสถาบันการศึกษาเอกชนทุกแห่ง เช่น โรงเรียนสำหรับการศึกษาพิเศษ สถานพยาบาลเอกชน และบริษัทของรัฐ เช่น บริษัทขนส่งของเทศบาล และบางทีคุณอาจจำได้ว่า ในอดีต เทศบาลทุกแห่งมีโรงงานผลิตก๊าซที่มีกลิ่นเหม็นเป็นของตนเองด้วย (เป็นบริษัทของรัฐด้วย ดังนั้นจึงเป็นของเอกชน)!
คุณเขียนว่าคุณทำงานในประเทศไทยด้วยและคุณจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเงินเดือนของคุณ แต่ในแบบฟอร์มการประกาศของคุณ ภ.ง.ด.91 คุณต้องระบุผลประโยชน์ AOW และเงินบำนาญส่วนตัวของคุณภายใต้คำถาม A-1 จากนั้นคุณต้องคำนวณการลดหย่อนที่จะใช้โดยประเทศไทยภายใต้มาตรา 23 วรรค 6 ของสนธิสัญญาและ tzv ผลประโยชน์ AOW ของคุณ ตามที่ฉันได้ระบุไว้ในการคำนวณตัวอย่าง
ขอบคุณแลมเบิร์ต
ฉันให้ทุกอย่างกับหน่วยงานด้านภาษีของไทยอย่างเรียบร้อย ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกเก็บจากเงินบำนาญของรัฐด้วย ปีหน้าฉันจะหักเงินที่ฉันจ่ายไปแล้วในเนเธอร์แลนด์
ตอนนี้เอกสารถูกกรอกแบบดิจิทัลโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่มหาวิทยาลัยที่ฉันทำงานอยู่ และพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันทำงานให้กับมหาวิทยาลัยคริสเตียนในเนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นมูลนิธิ
คริส ฉันประเมินว่าคุณมีรายได้ที่ต้องเสียภาษีในประเทศไทยพอสมควร ในกรณีดังกล่าว มีโอกาสดีที่การลดหย่อนที่ไทยจะจำกัดอยู่ที่ภาษีค่าจ้าง/ภาษีเงินได้ของเนเธอร์แลนด์ ดังนั้น ประเทศไทยจะยังคงมีขอบเขตภาษีสำหรับองค์ประกอบ AOW
อย่างไรก็ตาม หากองค์ประกอบ AOW ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (PIT) ต่ำกว่าภาษีที่ค้างชำระในประเทศเนเธอร์แลนด์ การลดหย่อนที่ประเทศไทยให้จะจำกัดเฉพาะการคำนวณ PIT ในส่วนที่เกี่ยวกับองค์ประกอบ AOW ดังเช่น เป็นจำนวนที่ต่ำกว่าของทั้งสองนี้
นอกเหนือจากการคำนวณตัวอย่างแล้ว ให้บันทึกข้อความภาษาอังกฤษของมาตรา 23(6) ของสนธิสัญญาบนคอมพิวเตอร์ของคุณ (ดูบทความที่โพสต์) ฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาอนุสัญญาฉบับภาษาอังกฤษได้จากลิงก์ต่อไปนี้:
http://download.rd.go.th/fileadmin/download/nation/netherland_e.pdf
Jacques เรากำลังพูดถึงสนธิสัญญาโบราณตั้งแต่ปี 1975 สนธิสัญญาอื่นๆ
เท่าที่ฉันรู้ การเจรจาสนธิสัญญาฉบับใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วและหยุดลงชั่วคราวทันทีหลังจากการรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์ในปี 2014 แต่มีการกล่าวกันว่าได้เริ่มต้นใหม่แล้ว ดังนั้นจะมีสนธิสัญญาอีกฉบับหนึ่งสำหรับอนาคตอันใกล้พร้อมบทบัญญัติที่ให้ความยุติธรรมมากขึ้นในเวลานี้ ดังนั้นจงอดทน!
Jaques คุณเห็นอย่างไรว่ามีการเก็บภาษีซ้อนของสวัสดิการประกันสังคม เช่น เงินบำนาญชราภาพ?
ด้วยการโพสต์การบริจาคของฉันในตอนนี้ และการบริจาคของฉันที่โพสต์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ฉันแสดงให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ในกรณีนี้
สำหรับบทความวันที่ 17 มีนาคม โปรดดูที่:
http://www.thailandblog.nl/expats-en-pensionado/heffing-van-belasting-over-sociale-zekerheidsuitkeringen/
เนื่องจากสนธิสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่ทำขึ้นระหว่างเนเธอร์แลนด์และไทยไม่มีบทบัญญัติใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์เหล่านี้ กฎหมายภายในประเทศจึงมีผลบังคับใช้กับทั้งสองประเทศ เนเธอร์แลนด์อาจเรียกเก็บเป็นประเทศต้นทางและประเทศไทยเป็นประเทศที่พำนัก
ต่อจากนั้น ภายใต้ข้อ 23(6) ของอนุสัญญา ประเทศไทยจำเป็นต้องยอมลดจำนวนของ:
ก) ภาษีค่าจ้าง/ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย/เรียกเก็บโดยเนเธอร์แลนด์ หากองค์ประกอบ AOW ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงกว่าภาษีของเนเธอร์แลนด์
b) องค์ประกอบ AOW ที่รวมอยู่ในภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากจำนวนเงินนั้นต่ำกว่าภาษีของเนเธอร์แลนด์
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การลดหย่อนที่ประเทศไทยให้นั้นต่ำที่สุดในจำนวนต่อไปนี้:
ก) จำนวนเท่ากับภาษีที่เรียกเก็บในประเทศเนเธอร์แลนด์
ข) จำนวนภาษีไทยส่วนหนึ่งที่เป็นขององค์ประกอบเงินบำนาญของรัฐ
ในกรณีนี้ คุณไม่สามารถพูดถึงการเก็บภาษีซ้อนได้
สุภาพบุรุษ เพื่อความชัดเจน ข้อยุ่งยากด้านภาษีนี้ใช้กับชาวดัตช์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นการถาวรเท่านั้น และจะไม่ใช้กับชาวดัตช์ที่อยู่ในประเทศไทยสูงสุด 8 เดือนต่อปี??
อีกหนึ่งปัจจัยที่ซับซ้อนในการอภิปรายทั้งหมด แต่ยังไงก็ตาม: ใครก็ตามที่อยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วันก็ต้องเสียภาษีในประเทศไทยด้วย!
Jaap “ความยุ่งยากด้านภาษี” นี้ใช้ได้กับคนที่อยู่ในประเทศไทย 8 เดือนและในเนเธอร์แลนด์ 4 เดือนอย่างแน่นอน
หากคุณตั้งใจที่จะอาศัยหรืออยู่นอกประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นเวลานานกว่า 12 เดือนในช่วง 8 เดือน คุณต้องยกเลิกการลงทะเบียนจากฐานข้อมูลประวัติส่วนตัวของเทศบาล (BRP) ฉันมักจะเรียกสิ่งนี้ว่า "การเตรียมการออกเดินทาง" 8 เดือนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน
แต่ปัจจุบันนี้สำหรับคนที่อยู่หรืออยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 8 เดือนหรือน้อยกว่านั้น เขาหรือเธอสามารถถอนการลงทะเบียนจาก BRP และย้ายถิ่นฐานมายังประเทศไทยได้ หลังจาก 8 เดือนหรือน้อยกว่า เขาสามารถกลับไปเนเธอร์แลนด์ได้อย่างปลอดภัยเพื่อพักผ่อน เยี่ยมครอบครัว หรือเข้ารับการผ่าตัด หลังจากวันหยุด ฯลฯ คุณตั้งใจจะกลับประเทศไทย ฉันเรียกสิ่งนี้ว่า 'โครงร่างผลตอบแทนชั่วคราว'
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความจริงที่ว่าคุณสามารถถือเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีของประเทศไทยได้หรือไม่ ด้วยเหตุนี้ มาตรา 4 ของสนธิสัญญาภาษีซ้อนที่ทำขึ้นระหว่างเนเธอร์แลนด์และไทยจึงมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้ (ที่เกี่ยวข้อง):
“ข้อ 4. ที่อยู่อาศัยทางการคลัง
1 เพื่อความมุ่งประสงค์ของอนุสัญญานี้ คำว่า "ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐหนึ่ง" หมายถึงบุคคลใดๆ ผู้ซึ่งตามกฎหมายของรัฐนั้นมีหน้าที่ต้องเสียภาษีในรัฐนั้นโดยเหตุแห่งภูมิลำเนา ถิ่นที่อยู่ สถานที่จัดการ หรืออื่นใด กรณีที่คล้ายกัน
• 3 หากบุคคลธรรมดาเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในทั้งสองรัฐตามบทบัญญัติของวรรค XNUMX ให้ใช้กฎต่อไปนี้:
oa) ให้ถือว่าเขาเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐโดยที่เขามีที่อยู่ถาวรอยู่แล้ว หากบุคคลนั้นมีที่อยู่ถาวรในทั้งสองรัฐ ให้ถือว่าเขาเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวและทางเศรษฐกิจอยู่ใกล้ที่สุด (ศูนย์กลางของผลประโยชน์อันสำคัญ)
(ob) หากไม่สามารถกำหนดรัฐที่บุคคลนั้นมีศูนย์กลางของผลประโยชน์อันสำคัญได้ หรือถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่ถาวรในรัฐใดรัฐหนึ่ง ให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐที่เขาอาศัยอยู่เป็นปกติวิสัย ;
ข้อ 4 วรรค 1 – คุณอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 180 วัน ดังนั้นจึงต้องเสียภาษีในประเทศไทย
ต่อจากนั้น จะกล่าวถึงข้อกำหนดที่เรียกว่าไทเบรกของข้อ 4(3)
ข้อ 4 วรรค 3 ภายใต้ a – คุณได้ขายบ้านริมคลองในอัมสเตอร์ดัมแล้ว และเรือยอทช์ของคุณก็ไม่ได้จอดอยู่ที่นั่นอีกต่อไปเช่นกัน คุณขายเฟอร์รารีของคุณด้วย ในประเทศไทย คุณมีบ้านที่ยั่งยืนและคุณขับรถมือสองไปทั่ว
ระหว่างที่คุณอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์ คุณสามารถย้ายไปอยู่กับครอบครัวหรือเช่าบ้านใน Egmond aan Zee หรือบน Veluwe แต่ถ้าครอบครัวของคุณเบื่อคุณ (ซึ่งกรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีของฉัน) คุณจะออกไปอยู่บนถนนทันที (ความยั่งยืนหายไป) คุณต้องออกจากบ้านใน Egmond aan Zee หรือที่ Veluwe clean ก่อน 10 น. ในวันเสาร์ (ไม่ยั่งยืนเช่นกัน)
หากคุณแต่งงานแล้วและมีลูกที่กำลังเรียนอยู่ด้วย คุณต้องพาพวกเขา (ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม) มาที่ประเทศไทยด้วย: ผลประโยชน์ส่วนตัวของคุณอยู่ที่ประเทศไทย
เมื่ออาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์ คุณมี "Appie" ที่หัวมุมถนน อย่ากลับมาที่ "Appie" นี้สำหรับร้านขายของชำรายสัปดาห์ของคุณ แต่ให้กลับมาที่ประเทศไทย ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของคุณก็อยู่ในประเทศไทยเช่นกัน
คุณไม่สามารถไปที่มาตรา 4(3)(b) ได้อีกต่อไป
กล่าวอีกนัยหนึ่ง: คุณเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศไทยและไม่ใช่ประเทศเนเธอร์แลนด์
แต่ทำถูกต้อง ตัวอย่างเช่น หากคุณเก็บบ้านไว้ในอัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นที่ที่ภรรยาและลูก ๆ ของคุณทิ้งไว้ในเนเธอร์แลนด์อาศัยอยู่ แสดงว่ามีความผูกพันกับเนเธอร์แลนด์มากเกินไป และในไม่ช้าคุณจะถูกพิจารณาเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีของเนเธอร์แลนด์ ตามกฎหมายคดีที่ยุติแล้ว ความสัมพันธ์กับเนเธอร์แลนด์ไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งกว่าความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ ดังนั้นจงระวังและทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
อนึ่ง ชาวดัตช์ส่วนใหญ่ที่ใช้โครงการ 8/4 ไม่ได้ยกเลิกการลงทะเบียนจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเก็บประกันสุขภาพของชาวดัตช์ไว้ แต่ทางเลือกเป็นของคุณ
อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรคิดว่าการประกันสุขภาพของชาวดัตช์ของคุณนั้นถูกกว่าการประกันสุขภาพ (ของต่างประเทศหรือต่างประเทศ) ที่ต้องทำในประเทศไทยเป็นอย่างมาก นอกจากเบี้ยประกันภัยรายเดือนที่จะต้องจ่ายให้กับผู้ประกันตนและเงินสมทบส่วนบุคคลแล้ว ในเนเธอร์แลนด์ คุณยังต้องจัดการกับเบี้ยประกันระยะยาวของพระราชบัญญัติการดูแลระยะยาวและเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับรายได้ภายใต้พระราชบัญญัติประกันสุขภาพซึ่งอาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่าย มากขึ้นในเนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบที่สำคัญคือข้อผูกพันในการยอมรับสำหรับผู้ประกันตนในเนเธอร์แลนด์เกี่ยวกับการประกันขั้นพื้นฐาน