สำหรับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2016 ได้มีการเตรียมการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ ท้องสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ มีการสร้างเมรุเผาศพท่ามกลางต้นไม้และคุณลักษณะที่มีบทบาทในชีวิตของกษัตริย์
เมรุเผาศพที่สูงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาเพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์ผู้เป็นที่เคารพอย่างสูง ฐานมีเนื้อที่กว้าง 60 เมตร x 60 เมตร และสูงไม่น้อยกว่า 50 เมตร ออกแบบโดยหยิบยืมมาจากสถาปัตยกรรมของพระเมรุซึ่งหมายถึงศูนย์กลางพุทธจักรวาลสากล พลับพลาหลังคาแหลมจำนวน 8 หลัง สร้างรอบพระเมรุจำลองภูเขารอบพระเมรุ พลับพลาเหล่านี้ประดับด้วยสัตว์ในตำนานจากป่าหิมพานต์ใกล้เขาพระสุเมรุ ในหมู่พวกเขาคือครุฑซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทยและเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ยืนอยู่เหนือเศียรของกษัตริย์ ครุฑนี้เป็นสัตว์เดียวที่จะพาพระราชากลับสวรรค์ได้
อนันดา ชูโชติ หัวหน้าโครงการ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังบูรณะราชรถสีทองโบราณที่จะเสด็จสวรรคต กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ เทศบาล กทม. ปลูกต้นมะขาม จำนวน 50 ต้น เพื่อนำไปวางบริเวณท้องสนามหลวงต่อไป
มีแผนที่จะสร้างพระเมรุมาศนี้ให้เสร็จทันเวลา คือ ก่อนฤดูฝน เพื่อไม่ให้ล่าช้า กำหนดวันฌาปนกิจชั่วคราวปลายเดือนตุลาคมนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบและสัตยาบันจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่เผาศพถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2017?
วันที่นี้เป็นการเสนอของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี แต่ตามที่โฆษกรัฐบาลสรรเสริญ แก้วกำเนิด กำหนดวันถวายพระเพลิงพระบรมศพปลายเดือนตุลาคมนั้นขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
มีอะไรที่ทราบหรือไม่ว่าประมุขแห่งรัฐอื่น ๆ จะเข้าร่วมพิธีด้วยหรือไม่?
ฉันได้จองตั๋วเครื่องบินพิเศษไปกรุงเทพเพื่อเข้าเฝ้าในหลวงอีกครั้ง แต่ปลายเดือน มิ.ย.ต้นเดือนส.ค.
เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้นำรัฐบาลระดับสูงค่อนข้างน้อย อาจจะมีข้อยกเว้นสำหรับกษัตริย์องค์นี้ (ฉันหวังว่าอย่างนั้น)