คุณสัมผัสทุกสิ่งในประเทศไทย (66)
เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว Johnny BG ได้เขียนเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับร้าน ตำหนักไทย และสงสัยว่าร้านนี้ถูกลืมหรือยังมีคนจำร้านนั้นได้
Christaan ซึ่งคุณเคยพบมาแล้วสองครั้งในตอนของรายการ “คุณได้สัมผัสกับทุกสิ่งในประเทศไทย” ตอบกลับสิ่งนี้ เขาคุ้นเคยกับร้านอาหารแห่งนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดที่มีบริการโรลเลอร์สเก็ต และส่งการแจ้งเตือนต่อไปนี้มาให้เรา
ตำหนักไทย ใน ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ในปี พ.ศ. 1979 เราซื้อบ้านหลังแรกในประเทศไทย ในย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ คือห้วยขวาง ซึ่งไม่ไกลจากถนนสุขุมวิทและประตูน้ำมากนัก
ขณะนั้นยังเป็นพื้นที่แอ่งน้ำมีงูชุกชุม แต่น่าจะเป็นการลงทุนที่ดีอย่างแน่นอน เนื่องจากการก่อสร้างทางหลวงรัชดาภิเษกระหว่างดินแดงและห้วยขวางยังไม่แล้วเสร็จ
กระท่อมของเราอยู่ในตรอกหมู่ แต่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยและกำแพงล้อมรอบ 200 ตารางเมตร ชั้นเดียว สามห้องนอน สองห้องน้ำ มีห้องนอนและห้องน้ำแยกต่างหากสำหรับคนรับใช้ และทั้งหมดนั้นรวมที่ดินราคา 350.000 บาทแล้ว หนึ่งหลังสำหรับตอนนี้ เหลือเชื่อ ราคา
มีปัญหาบางอย่าง วันแรกในบ้านของเรา มีงูเห่าตัวใหญ่สองตัวอยู่หน้าประตูบ้านของเรา อีกทั้งช่วงนั้นน้ำท่วมกรุงเทพฯ มากด้วย เราเองก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งมีน้ำเน่าเหม็นอยู่รอบบ้านของเราเป็นเวลาสามเดือน จากนั้นจัดการขนส่งไปยังศูนย์ด้วยรถบรรทุกทหาร
ทางหลวงรัชดาภิเษกสร้างเสร็จและมีการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้าสยามจัสโก้ที่มีร้านอาหารตำหนักไทยชื่อดังอยู่ข้างๆ เรียกว่าเป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียหรือในโลก ความพิเศษคือบริการบนโรลเลอร์สเก็ต ร้านอาหารส่วนใหญ่สร้างเหนือน้ำ ผ่านทางเดินไม้ บริการในชุดไทยแบบดั้งเดิมบินบนโรลเลอร์สเก็ตพร้อมถาดอาหารไปยังโต๊ะ แน่นอนว่าบางครั้งเกิดความผิดพลาดขึ้น เรายังได้เห็นอาหารไทยรสเลิศหลายชามลอยอยู่ในอากาศอีกด้วย เราชอบมาที่นั่นกับแขกและลูกค้า มันอร่อยและพิเศษ
เราขายบ้านหลังนี้ในอีก 1,2 ปีต่อมาในราคา XNUMX ล้านบาท จึงเป็นการลงทุนที่ดีจริงๆ
ร้านอาหารโรลเลอร์สเก็ตยังคงอยู่หรือไม่?
สวัสดีร็อบ
ร้านอาหารเดิมไม่มีอยู่แล้ว มีที่ตั้งใหม่และชื่อใหม่ “มังกรทอง”.
ประทับใจ !
นอกจากนี้,
https://www.youtube.com/watch?v=kBZ9AGRoBvc
ด้วยตัว S หลังจาก Christian เราก็มาถึง Christianaans ซึ่งเป็นนามสกุลจริงของฉัน
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้อีกครั้งและต้องประหลาดใจกับความเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะระหว่างปี 1980 ถึง 1990 ไม่น่าเชื่อว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ชะอำ ฉันยังคงคิดถึงเรื่องนั้นเป็นประจำเมื่อมีโอกาสเป็นครั้งคราว หากได้ไป กรุงเทพฯ อีกครั้ง ก็ยังรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้ง