'ประเทศไทยลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานน้อยเกินไป'
'ประเทศไทย ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ที่กำหนดอนาคตของประเทศ' นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 16 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23 ก่อนวิกฤตการเงินปี 1997 มาเลเซียและเวียดนามมีอัตราที่สูงกว่ามาก
ประสารไม่กระตือรือร้นกับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เช่น การขอคืนภาษีรถยนต์คันแรก เงินราชการที่ไปก็เสียเงินเปล่า พวกเขาใช้เงินลงทุนได้ดีกว่า นอกจากนี้ ภาระทางการเงินของการดูแลสุขภาพและผลประโยชน์การว่างงานจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประสารยังกังวลเกี่ยวกับเงินทุนของระบบรับจำนำข้าว เนื่องจากธนาคารพาณิชย์อาจถูกเรียกเข้ามาช่วย
เศรษฐกิจแบบเปิดของประเทศไทยซึ่งคำนวณโดย Barclays Capital ที่ร้อยละ 177 ของ GDP ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั่วโลกหลายประการ จากข้อมูลของประสาน วิกฤตยูโรโซนก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อประเทศไทย ซึ่งต้องพึ่งพายุโรปและสหรัฐอเมริกาถึงร้อยละ 25 ของการส่งออก ความต้องการสภาพคล่องสูงในยุโรปสำหรับการเพิ่มทุนของธนาคารอาจลดกระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ประสารยังมองโลกในแง่ดี ระบบธนาคารพาณิชย์และเงินสำรองต่างประเทศแข็งแกร่งกว่าในปี 2008 ที่เลห์แมน บราเธอร์สล่มสลาย หลังจากการพังทลายของเลมาน ต้องใช้เวลา 3 ปีกว่าที่ฐานะเงินกองทุนของธนาคารจะกลับสู่ระดับก่อนปี 2008 ปัจจุบัน เงินทุนธนาคารของประเทศไทยมีมูลค่า 1,19 ล้านล้านบาท ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 111 พันล้านดอลลาร์ในปี 2008 เป็น 181,3 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 23 กันยายน
ภาพรวมเศรษฐกิจระยะสั้นดี แต่ระยะยาวยังดูมืดมนด้วยประเด็นที่ยากหลายประการ