ขนมจีนน้ำเงี้ยว (ก๋วยเตี๋ยวมะเขือเทศเผ็ดภาคเหนือ) เป็นอาหารยอดนิยมในภาคเหนือของประเทศไทย คนไทยทางเหนือทุกคนรู้จักขนมจีนน้ำเงี้ยว 'ขนมจีน' หมายถึงเส้นหมี่สด และ 'น้ำเงี้ยว' คือน้ำซุปรสเผ็ดใส่มะเขือเทศ เมนูนี้ยังได้รับความนิยมในพม่าและแม้แต่จีนอีกด้วย ในประเทศไทยคุณสามารถไปที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อชิมขนมจีนน้ำเงี้ยวที่อร่อยที่สุด
ขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นอาหารไทยแบบดั้งเดิมที่หยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์การทำอาหารของภาคเหนือของประเทศไทย และมีความเกี่ยวข้องกับภูมิภาคเชียงใหม่และเชียงรายเป็นหลัก จานนี้ยังได้รับอิทธิพลจากอาหารของประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าอีกด้วย
ประวัติและความเป็นมา
ชื่อ “ขนมจีน” หมายถึงเส้นหมี่สดเนื้อบางตามแบบฉบับของอาหารจานนี้ ส่วน “น้ำเงี้ยว” หมายถึงซุปรสเผ็ดเปรี้ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใช้เส้นเส้นมาเสิร์ฟ ต้นกำเนิดของอาหารจานนี้มีที่มาจากชาวไทใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์จากรัฐฉานของเมียนมาร์ หลายปีที่ผ่านมา สูตรอาหารได้รับการดัดแปลงจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและผสมผสานเข้ากับอาหารไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทย
ข้อมูลจำเพาะ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของขนมจีนน้ำเงี้ยวคือการใช้ดอกไม้แห้งจากต้นดอกงิ้วหรือที่เรียกกันว่าดอกลิลลี่เสือ ดอกไม้เหล่านี้ทำให้จานนี้มีรสชาติเหมือนดิน จานนี้มักประกอบด้วยหมูหรือไก่ มะเขือเทศ เต้าเจี้ยวหมัก และสมุนไพรและเครื่องเทศท้องถิ่นหลากหลายชนิด เช่น หอมแดง กระเทียม และพริก
โปรไฟล์รสชาติ
ขนมจีนน้ำเงี้ยวขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่ซับซ้อน มีรสเผ็ด เปรี้ยว และขมเล็กน้อยในเวลาเดียวกัน พร้อมด้วยรสอูมามิที่เข้มข้นด้วยส่วนผสมของถั่วเหลือง เส้นบะหมี่สดที่ทำจากแป้งข้าวเจ้ามีเนื้อสัมผัสที่นุ่มซึ่งช่วยรักษาสมดุลของรสชาติเข้มข้นของซุปได้อย่างลงตัว โดยปกติจะเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด รวมถึงสมุนไพรสด ผัก และบางครั้งก็ผักกาดดอง ซึ่งเพิ่มมิติพิเศษของรสชาติและเนื้อสัมผัส
ขนมจีนน้ำเงี้ยวไม่เพียงแต่เป็นมรดกทางอาหารของภาคเหนือของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความหลากหลายในภูมิภาคนี้อีกด้วย ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อาหารไทยที่ล้ำลึก
รายการส่วนผสมขนมจีนน้ำเงี้ยว (สำหรับ 4 ที่)
- เส้นหมี่สด (ขนมจีน) – 400 กรัม
- ดอกลิลลี่เสือแห้ง (ดอกงิ้ว) – 1/2 ถ้วย แช่น้ำและสับละเอียด
- มะเขือเทศ – 4 ชิ้น สับละเอียด
- ซี่โครงหมูหรือน่องไก่ – 500 กรัม
- เต้าเจี้ยวหมัก (เต้าจิ๋ว) – 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง – 4 สับละเอียด
- กระเทียม – 4 กลีบสับละเอียด
- พริกแดงแห้ง – 4 เม็ด แช่น้ำและสับละเอียด
- เต้าหู้เลือด (ไม่จำเป็น) – 200 กรัม หั่นเป็นลูกเต๋า
- ผงซุปปลาหรือน้ำสต๊อกไก่ – 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช – 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ - 2 ลิตร
- เกลือและน้ำตาล – เพื่อลิ้มรส
- น้ำมะนาว – จาก 2 มะนาว
- ผักชีสด – สับสำหรับตกแต่ง
- หัวหอมสีเขียว – สับละเอียดสำหรับปรุงแต่ง
เบไรดิงสวิชเซอ:
- การเตรียมเส้นบะหมี่และดอกไม้:
- แช่ดอกลิลลี่เสือในน้ำอุ่นประมาณ 20 นาที แล้วสะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- ปรุงเส้นก๋วยเตี๋ยวสดตามคำแนะนำในบรรจุภัณฑ์ ล้างออกด้วยน้ำเย็นแล้วพักไว้
- ทำฐานซุป:
- ตั้งน้ำมันให้ร้อนในหม้อขนาดใหญ่ เพิ่มหอมแดงและกระเทียมแล้วทอดจนเป็นสีเหลืองทอง
- ใส่เต้าเจี้ยวหมักและพริกลงไป ผัดทุกอย่างให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม
- เพิ่มซี่โครงหมูหรือต้นขาไก่และทอดจนเป็นสีน้ำตาลทุกด้าน
- เติมน้ำ ผงซุปปลา หรือน้ำสต๊อกไก่ และมะเขือเทศ นำทุกอย่างไปต้ม
- ใส่ดอกลิลลี่เสือที่แช่ไว้แล้วปล่อยให้น้ำซุปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมง
- การเพิ่มส่วนผสมเพิ่มเติม:
- ใส่เต้าหู้เลือด (ถ้าใช้) แล้วเคี่ยวต่อไปอีก 10-15 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และน้ำมะนาว
- เสิร์ฟ:
- แบ่งเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงสุกออกเป็นสี่ชาม
- ตักซุปร้อนๆ ใส่เนื้อและดอกไม้ลงบนเส้นบะหมี่
- ประดับด้วยผักชีสดและหัวหอมสีเขียว
เสิร์ฟขนมจีนน้ำเงี้ยวร้อนๆ และเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อนของอาหารไทยแบบดั้งเดิมนี้!
บทความที่ดีเสมอ
คงจะชอบมากสำหรับหลาย ๆ คน ถ้าคำอธิบายการออกเสียงมาพร้อมกับข้อความภาษาไทย
มากกว่า
และในสัทศาสตร์ที่เน้นภาษาดัตช์มากกว่านั้นจะเป็น: khà-nǒm tjien náam ngíejaw (ngíejaw เป็นชื่อประชากรบนภูเขา Chan ทางตอนเหนือ)